ใน สังคมยุคโลกาภิวัฒน์อย่างในปัจจุบัน มารยาทที่ควรมีเมื่อคุณนั่งรับประทานอาหารอาจจะเป็นเรื่องที่น่าสับสน แม้กระทั่งกับคนที่เดินทางมาแล้วทั่วโลกก็ตาม แต่ในสังคมตะวันตก เรา แบ่งมารยาทบนโต๊ะอาหารออกเป็นสองแบบใหญ่ๆเท่านั้นค่ะ
คือแบบยุโรป (European Dining Style) และ แบบอเมริกัน (American Dining Style)
สำหรับมารยาทบนโต๊ะอาหารทั้งสองแบบนั้น เมื่อคุณนั่งลงที่โต๊ะ คุณจะสังเกตเห็นผ้าเช็ดปาก (napkin) ค่ะ ซึ่งคุณจะต้องคลุมผ้าเช็ดปากนี้ไว้บนตักทันทีที่นั่งลงที่โต๊ะอาหาร ตอนนี้ฉันมีผ้าเช็ดปากอยู่สองแบบ ผืนหนึ่งใหญ่กว่าอีกผืน ผืนที่เล็กกว่านี้เป็นผ้าเช็ดปากสำหรับอาหารมื้อกลางวัน (lunch napkin) ส่วนผืนที่ใหญ่กว่าเป็นผ้าเช็ดปากสำหรับอาหารมื้อค่ำ (dinner napkin) ค่ะ
ผ้า เช็ดปากสำหรับมื้อกลางวัน เนื่องจากมันมีขนาดเล็กกว่า เมื่อคุณจะคลุมมันไว้บนตัก คุณต้องคลีมันออกทั้งผืนแล้วจึงวางคลุมไว้บนตักค่ะ ส่วนผ้าเช็ดปากสำหรับมื้อค่ำนั้นจะต่างกันเล็กน้อยค่ะ เนื่องจากมันมีขนาดใหญ่กว่า เราจะคลี่ออกจนเหลือไว้ครึ่งผืน แล้ววางคลุมไว้บนตัก โดยหันด้านปิดเข้าหาตัวค่ะ
การเริ่มรับประทานอาหารของทั้งสองแบบจะเริ่มเหมือนกันค่ะ กล่าวคือ ถือส้อม (fork) ไว้ในมือซ้าย โดยคว่ำส้อมลงและวางนิ้วชี้ (index finger) ไว้หลังส้อม มือขวาถือมีด โดยคว่ำด้านคมของมีดลงและวางนิ้วชี้ไว้บนด้ามด้านหลังมีดค่ะ
เมื่อคุณตัด อาหารเป็นชิ้นพอดีคำเสร็จ ในมารยาทบนโต๊ะอาหารแบบยุโรปนั้น ส้อมจะยังคงอยู่ในมือซ้าย และจิ้มอาหารเข้าปาก โดยที่ส้อมจะอยู่ในลักษณะคว่ำอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจะออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ เมื่อคุณต้องการทานอาหารที่นิ่มกว่าหรือผักในจาน วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ให้ใช้ส้อมจิ้มไปที่ผักหรือเนื้อชิ้นนั้นแล้วค่อยๆใช้มีดช่วยดัน ให้ใช้ส้อมจิ้มได้ถนัดขึ้นค่ะ
สำหรับมารยาทบนโต๊ะอาหารแบบอเมริกันนั้น จะต่างออกไปเล็กน้อยค่ะ เริ่มเหมือนกันคือตัดอาหารเป็นชิ้นพอดีคำก่อน จากนั้นก็วางมีดลงตรงมุมด้านบนของจาน แล้วเปลี่ยนมือจับส้อมมาเป็นมือขวา โดยจับให้ส้อมหงายขึ้น มือซ้ายต้องวางไว้ที่ตักเสมอ ห้ามนำมาวางท้าวไว้บนโต๊ะเด็ดขาด และเมื่อนำอาหารเข้าปากส้อมจะอยู่ในตำแหน่งหงายค่ะ ทำให้ดูอีกครั้งนะคะ ตัดอาหารก่อน วางมีดไว้มุมบน เปลี่ยนมาจับส้อมด้วยมือขวา มือซ้ายที่ว่างอยู่วางไว้บนตัก และนำอาหารเข้าปากโดยส้อมหงายไว้ค่ะ
บางครั้งขณะรับประทานอาหาร คุณอาจจะรู้สึกอยากพักสักครู่โดยที่คุณยังทานไม่เสร็จ เราเลยมีท่าทางที่จะส่งสัญญาณบอกบริกรได้ว่า คุณยังทานไม่เสร็จ แค่พักการรับประทานอาหารสักครู่ค่ะ วิธีการก็คือวางส้อมและมีดไว้เป็นมุมฉากคว่ำบนจาน แบบนี้ค่ะ ส้อมต้องวางคว่ำไว้ และด้านคมของมีดต้องหันไว้ด้านในค่ะ จริงๆแล้วมันขึ้นอยู่กับว่าตอนนั้นคุณยังเหลืออาหารในจานมากน้อยแค่ไหน ถ้ายังเหลือมากหน่อยก็อาจจะวางส้อมและมีดไว้ห่างกันหน่อย หรือถ้าเหลือน้อยก็อาจจะวางไว้ใกล้กัน หรือซ้อนกันไว้เล็กน้อยก็ได้เหมือนกันค่ะ
สำหรับมารยาทบนโต๊ะอาหารแบบอเมริกัน เมื่อคุณหยุดพักการรับประทานอาหาร มือทั้งสองข้างจะต้องอยู่บนตักเสมอ ยกเว้นเวลาเอื้อมมือมาหยิบแก้วเพื่อดื่มน้ำ แต่ในแบบยุโรป มือและข้อมือของคุณจะต้องอยู่เหนือโต๊ะตลอดเวลาค่ะ
อย่างไรก็ตาม ทั้ง สองแบบเหมือนกันตรงที่ ห้ามท้าวศอกหรือแขนไว้บนโต๊ะจนกว่าคุณจะรับประทานอาหารเสร็จและจานและ อุปกรณ์ทั้งหมดได้ถูกยกเก็บไปเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีท่าทางอีกอย่างที่จะส่งสัญญาณบอกบริกรได้ว่าคุณรับประทานอาหารเสร็จ เรียบร้อยแล้วค่ะ นั่นคือการรวบส้อมและมีดไว้คู่กันแล้ววางเฉียงไว้ตรงมุมขวาของจาน หรือถ้าคิดถึงนาฬิกาก็จะเป็นตำแหน่งประมาณสี่นาฬิกาค่ะ จะวางส้อมหงายหรือคว่ำไว้ก็ได้ แต่ด้านคมของมีดต้องไว้ด้านใน คือหันไปทางส้อมเสมอค่ะ
และนั่นเป็นมารยาทบนโต๊ะอาหารสองแบบในวัฒนธรรมตะวันตกค่ะ เลือกใช้ในแบบที่เหมาะสม และมีความสุขกับการรับประทานอาหารได้เลยค่ะ
สำหรับมารยาทบนโต๊ะอาหารทั้งสองแบบนั้น เมื่อคุณนั่งลงที่โต๊ะ คุณจะสังเกตเห็นผ้าเช็ดปาก (napkin) ค่ะ ซึ่งคุณจะต้องคลุมผ้าเช็ดปากนี้ไว้บนตักทันทีที่นั่งลงที่โต๊ะอาหาร ตอนนี้ฉันมีผ้าเช็ดปากอยู่สองแบบ ผืนหนึ่งใหญ่กว่าอีกผืน ผืนที่เล็กกว่านี้เป็นผ้าเช็ดปากสำหรับอาหารมื้อกลางวัน (lunch napkin) ส่วนผืนที่ใหญ่กว่าเป็นผ้าเช็ดปากสำหรับอาหารมื้อค่ำ (dinner napkin) ค่ะ
ผ้า เช็ดปากสำหรับมื้อกลางวัน เนื่องจากมันมีขนาดเล็กกว่า เมื่อคุณจะคลุมมันไว้บนตัก คุณต้องคลีมันออกทั้งผืนแล้วจึงวางคลุมไว้บนตักค่ะ ส่วนผ้าเช็ดปากสำหรับมื้อค่ำนั้นจะต่างกันเล็กน้อยค่ะ เนื่องจากมันมีขนาดใหญ่กว่า เราจะคลี่ออกจนเหลือไว้ครึ่งผืน แล้ววางคลุมไว้บนตัก โดยหันด้านปิดเข้าหาตัวค่ะ
การเริ่มรับประทานอาหารของทั้งสองแบบจะเริ่มเหมือนกันค่ะ กล่าวคือ ถือส้อม (fork) ไว้ในมือซ้าย โดยคว่ำส้อมลงและวางนิ้วชี้ (index finger) ไว้หลังส้อม มือขวาถือมีด โดยคว่ำด้านคมของมีดลงและวางนิ้วชี้ไว้บนด้ามด้านหลังมีดค่ะ
เมื่อคุณตัด อาหารเป็นชิ้นพอดีคำเสร็จ ในมารยาทบนโต๊ะอาหารแบบยุโรปนั้น ส้อมจะยังคงอยู่ในมือซ้าย และจิ้มอาหารเข้าปาก โดยที่ส้อมจะอยู่ในลักษณะคว่ำอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจะออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ เมื่อคุณต้องการทานอาหารที่นิ่มกว่าหรือผักในจาน วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ให้ใช้ส้อมจิ้มไปที่ผักหรือเนื้อชิ้นนั้นแล้วค่อยๆใช้มีดช่วยดัน ให้ใช้ส้อมจิ้มได้ถนัดขึ้นค่ะ
สำหรับมารยาทบนโต๊ะอาหารแบบอเมริกันนั้น จะต่างออกไปเล็กน้อยค่ะ เริ่มเหมือนกันคือตัดอาหารเป็นชิ้นพอดีคำก่อน จากนั้นก็วางมีดลงตรงมุมด้านบนของจาน แล้วเปลี่ยนมือจับส้อมมาเป็นมือขวา โดยจับให้ส้อมหงายขึ้น มือซ้ายต้องวางไว้ที่ตักเสมอ ห้ามนำมาวางท้าวไว้บนโต๊ะเด็ดขาด และเมื่อนำอาหารเข้าปากส้อมจะอยู่ในตำแหน่งหงายค่ะ ทำให้ดูอีกครั้งนะคะ ตัดอาหารก่อน วางมีดไว้มุมบน เปลี่ยนมาจับส้อมด้วยมือขวา มือซ้ายที่ว่างอยู่วางไว้บนตัก และนำอาหารเข้าปากโดยส้อมหงายไว้ค่ะ
บางครั้งขณะรับประทานอาหาร คุณอาจจะรู้สึกอยากพักสักครู่โดยที่คุณยังทานไม่เสร็จ เราเลยมีท่าทางที่จะส่งสัญญาณบอกบริกรได้ว่า คุณยังทานไม่เสร็จ แค่พักการรับประทานอาหารสักครู่ค่ะ วิธีการก็คือวางส้อมและมีดไว้เป็นมุมฉากคว่ำบนจาน แบบนี้ค่ะ ส้อมต้องวางคว่ำไว้ และด้านคมของมีดต้องหันไว้ด้านในค่ะ จริงๆแล้วมันขึ้นอยู่กับว่าตอนนั้นคุณยังเหลืออาหารในจานมากน้อยแค่ไหน ถ้ายังเหลือมากหน่อยก็อาจจะวางส้อมและมีดไว้ห่างกันหน่อย หรือถ้าเหลือน้อยก็อาจจะวางไว้ใกล้กัน หรือซ้อนกันไว้เล็กน้อยก็ได้เหมือนกันค่ะ
สำหรับมารยาทบนโต๊ะอาหารแบบอเมริกัน เมื่อคุณหยุดพักการรับประทานอาหาร มือทั้งสองข้างจะต้องอยู่บนตักเสมอ ยกเว้นเวลาเอื้อมมือมาหยิบแก้วเพื่อดื่มน้ำ แต่ในแบบยุโรป มือและข้อมือของคุณจะต้องอยู่เหนือโต๊ะตลอดเวลาค่ะ
อย่างไรก็ตาม ทั้ง สองแบบเหมือนกันตรงที่ ห้ามท้าวศอกหรือแขนไว้บนโต๊ะจนกว่าคุณจะรับประทานอาหารเสร็จและจานและ อุปกรณ์ทั้งหมดได้ถูกยกเก็บไปเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีท่าทางอีกอย่างที่จะส่งสัญญาณบอกบริกรได้ว่าคุณรับประทานอาหารเสร็จ เรียบร้อยแล้วค่ะ นั่นคือการรวบส้อมและมีดไว้คู่กันแล้ววางเฉียงไว้ตรงมุมขวาของจาน หรือถ้าคิดถึงนาฬิกาก็จะเป็นตำแหน่งประมาณสี่นาฬิกาค่ะ จะวางส้อมหงายหรือคว่ำไว้ก็ได้ แต่ด้านคมของมีดต้องไว้ด้านใน คือหันไปทางส้อมเสมอค่ะ
และนั่นเป็นมารยาทบนโต๊ะอาหารสองแบบในวัฒนธรรมตะวันตกค่ะ เลือกใช้ในแบบที่เหมาะสม และมีความสุขกับการรับประทานอาหารได้เลยค่ะ